แจ้งเคลมประกันชีวิตและสุขภาพ

แจ้งเคลมประกันชีวิตและสุขภาพ
แจ้งเคลมประกันชีวิตผู้ป่วยนอก (OPD)

เจ็บป่วยและรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยนอก (OPD) 

สำหรับขั้นตอนการแจ้งเคลมกรณีเจ็บป่วยและรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยนอก (OPD) มี 2 วิธีคือ

1. เข้ารักษาตัวแบบไม่ต้องสำรองจ่าย (cashless) สิ่งที่ต้องเตรียมคือ

  • ตรวจสอบโรงพยาบาลในเครืออลิอันซ์ อยุธยา -> รายละเอียดคลิก
  • แจ้งความจำนงขอใช้สิทธิ์โดยยื่นบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
  • เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้วจะแจ้งผลประโยชน์ และความคุ้มครองตามกรมธรรม์ให้ทราบ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเกินสิทธิ์ที่โรงพยาบาลจะเรียกเก็บ

เงื่อนไขการให้บริการ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ให้บริการผู้ป่วยนอกแบบไม่ต้องสำรองจ่าย เฉพาะ

- ผู้เอาประกันภัยที่ไม่เข้าข้อยกเว้นตามที่ระบุในกรมธรรม์

- กรมธรรม์ที่ชำระเบี้ยภายในระยะเวลาที่กำหนด

- กรมธรรม์ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายคงค้างกับบริษัทฯ

กรณีที่ ค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิ์ความคุ้มครองภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินสิทธิ์นั้น ให้กับโรงพยาบาลโดยตรง

 

2. สำรองจ่ายก่อน แล้วค่อยทำเรื่องเบิกคืน โดยสามารถเลือกวิธีการแจ้งเคลมได้ดังนี้

2.1 แจ้งเคลมออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น My Allianz โดยสามารถเคลมออนไลน์ได้ 20 ครั้ง/ปี โดยยอดค่ารักษาพยาบาลในการเคลมแต่ละครั้งไม่เกินครั้งละ 5,000 บาท ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  • เมื่อเข้า My Allianz ให้เลือกเมนู My Claim
  • เลือกหัวข้อเคลมออนไลน์
  • กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และส่งเอกสารที่บริษัทกำหนด
  • ส่งเอกสาร เช่น ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล (ต้นฉบับ) ใบรับรองแพทย์ ด้วยการถ่ายภาพ
  • รับเงินเคลม ผ่านบัญชีส่วนตัวของท่าน (สำหรับท่านที่ไม่ได้เลือกวิธีรับเงิน ระบบจะให้ท่านสมัครผ่าน My Allianz เพื่อรับเงินผ่านบัญชีของท่าน)
  • รอการอนุมัติ

กรณียอดค่ารักษาพยาบาลเกินกว่าที่กำหนดข้างต้น สามารดาวน์โหลดฟอร์มเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ตามแบบฟอร์มของบริษัทฯ ที่นี่ รายละเอียดและการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น My Allianz

2.2 แจ้งเคลมด้วยการกรอกแบบฟอร์ม สามารดาวน์โหลดฟอร์มของบริษัทฯ ที่นี่ สำหรับเอกสารจำเป็นที่ต้องใช้คือ

  • แบบฟอร์มเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ตามแบบฟอร์มบริษัทฯ
  • ใบรับรองแพทย์ผู้รักษาที่สถานพยาบาลนั้นออกให้ หรือรายงานแพทย์ผู้ตรวจรักษาตามแบบฟอร์มของบริษัทฯ (ด้านหลังแบบฟอร์ม) โดยให้แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ และเป็นแพทย์ผู้ตรวจกรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์มพร้อมลงนาม และประทับตราสถานพยาบาล
  • ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล (ต้นฉบับ)
  • หนังสือยินยอมที่กรอกครบถ้วน พร้อมลงลายมือชื่อ*
  • สำเนาสูติบัตรที่รับรองสำเนาแล้ว(กรณีเป็นผู้เยาว์)*
  • สำเนาบัตรประชาชนที่รับรองสำเนาแล้ว*
  • สำเนาการเปลี่ยนแปลง ชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

*เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเคลมชดเชยสินไหม กรณีบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากโรงพยาบาล หรือคลินิก

ขั้นตอนการเคลมประกันชีวิตผู้ป่วยนอก

แจ้งเคลมประกันชีวิตผู้ป่วยใน (IPD)

เจ็บป่วยและรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) หรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (HS, HB, AI, PA)

สำหรับขั้นตอนการแจ้งเคลมเมื่อเจ็บป่วยและรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) หรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (HS, HB, AI, PA) มีดังนี้

1. เข้ารักษาตัวแบบไม่ต้องสำรองจ่าย (cashless) สิ่งที่ต้องเตรียมคือ

  • ตรวจสอบโรงพยาบาลในเครืออลิอันซ์ อยุธยา -> รายละเอียดคลิก
  • แจ้งความจำนงขอใช้สิทธิ์โดยยื่นบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
  • เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้วจะแจ้งผลประโยชน์ และความคุ้มครองตามกรมธรรม์ให้ทราบ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเกินสิทธิ์ที่โรงพยาบาลจะเรียกเก็บ

เงื่อนไขการให้บริการ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ให้บริการผู้ป่วยนอกแบบไม่ต้องสำรองจ่าย เฉพาะ

- ผู้เอาประกันภัยที่ไม่เข้าข้อยกเว้นตามที่ระบุในกรมธรรม์

- กรมธรรม์ที่ชำระเบี้ยภายในระยะเวลาที่กำหนด

- กรมธรรม์ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายคงค้างกับบริษัทฯ

กรณีที่ ค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิ์ความคุ้มครองภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินสิทธิ์นั้น ให้กับโรงพยาบาลโดยตรง

2. สำรองจ่ายก่อน แล้วค่อยทำเรื่องเบิกคืน โดยสามารถเลือกวิธีการแจ้งเคลมได้ดังนี้

2.1 แจ้งเคลมออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชั่น My Allianz สามารถเคลมออนไลน์ได้ 2 ครั้ง/ปี โดยยอดค่ารักษาพยาบาลในการเคลมแต่ละครั้งไม่เกินครั้งละ 20,000 บาท มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  • เมื่อเข้า My Allianz ให้เลือกเมนู My Claim
  • เลือกหัวข้อเคลมออนไลน์
  • กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และส่งเอกสารที่บริษัทกำหนด
  • ส่งเอกสาร เช่น ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล (ต้นฉบับ) ใบรับรองแพทย์ ด้วยการถ่ายภาพ
  • รับเงินเคลม ผ่านบัญชีส่วนตัวของท่าน (สำหรับท่านที่ไม่ได้เลือกวิธีรับเงิน ระบบจะให้ท่านสมัครผ่าน My Allianz เพื่อรับเงินผ่านบัญชีของท่าน)
  • รอการอนุมัติ
  • ในกรณีที่ยอดค่ารักษาพยาบาลเกินกว่าที่กำหนดข้างต้น สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมอุบัติเหตุ ,ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน หรือโรคร้ายแรง (AI/PA/IPD/CI) ที่นี่
  • รายละเอียดและการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น My Allianz

2.2 แจ้งเคลมด้วยการกรอกแบบฟอร์ม สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมอุบัติเหตุ, ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน หรือโรคร้ายแรง (AI/PA/IPD/CI)  ที่นี่ สำหรับขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ได้แก่

  • แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมอุบัติเหตุ หรือ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (AI/PA/IPD) ตามแบบฟอร์มบริษัทฯ โดยผู้เอาประกันภัยกรอกข้อความให้ครบถ้วนทุกรายการ พร้อมลงนาม 2 แห่ง ที่ช่องลายเซ็นผู้เอาประกันภัย (เลขที่บัตรประชาชน หมายถึง เลขที่บัตรประชาชน3ของผู้เอาประกันภัย)
  • รายงานแพทย์ ผู้ตรวจรักษาตามแบบฟอร์มบริษัทฯ(ด้านหลังแบบฟอร์ม) โดยให้แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ และเป็นแพทย์ผู้ตรวจกรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์มพร้อมลงนาม และประทับตราสถานพยาบาล ในกรณีที่เรียกร้องผลประโยชน์เพิ่มเติมตามสัญญา HB Plus เนื่องจากการผ่าตัดซับซ้อน หรือผ่าตัดใหญ่ จะต้องแนบเอกสารรายงานการผ่าตัด (Operative Note)
  • ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ (กรณีเรียกร้องค่ารักษารายวันอย่างเดียวให้ใช้สำเนาใบเสร็จได้)
  • ใบแจกแจง รายการค่ารักษาทุกรายการพร้อมรายละเอียดการรับประทานยา
  • หนังสือยินยอมที่กรอกครบถ้วน พร้อมลงลายมือชื่อ*
  • สำเนาสูติบัตรที่รับรองสำเนาแล้ว (กรณีเป็นผู้เยาว์)*
  • สำเนาบัตรประชาชนที่รับรองสำเนาแล้ว*
  • สำเนาการเปลี่ยนแปลง ชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)*
  • เอกสารทางการแพทย์อื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ฟิล์มเอ็กซเรย์ หรือ ใบอ่านฟิล์ม ใบนัดฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าที่ได้รับการฉีดครบ 5 เข็ม กรณีถูกสุนัขกัด ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

* กรุณาส่งเอกสารดังกล่าวทุกครั้งเมื่อ ท่านไม่สามารถใช้สิทธิ์อลิอันซ์ อยุธยาแคร์ได้ หรือภาวะโรค/การบาดเจ็บ รุนแรงและเรื้อรัง หรืออื่นๆ เนื่องจากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากโรงพยาบาล หรือ คลินิก

ขั้นตอนการเคลมประกันชีวิตผู้ป่วยใน

ขั้นตอนการเคลมออนไลน์

ขั้นตอนเคลมออนไลน์, online claim

แจ้งเคลมประกันชีวิตโรคร้ายแรง (CI, DDB, CB )

การเรียกร้องสินไหมตามสัญญาโรคร้ายแรง (CI, DDB, CB )
  • กรอกแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมอุบัติเหตุ, ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน หรือโรคร้ายแรง (AI/PA/IPD/CI)        ดาวน์โหลด
  • รายงานแพทย์ ผู้ตรวจรักษาตามแบบฟอร์มบริษัทฯ(ด้านหลังแบบฟอร์ม) ที่แถลงผลการวินิจฉัยโรคโดยละเอียด โดยให้แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่ง ที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ และเป็นแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนทุกรายการพร้อมลงนามและประทับตราโรงพยาบาล
  • เอกสารทางการ แพทย์อื่นๆ เช่น ฟิล์มเอ็กซเรย์พร้อมรายงานผลการอ่านฟิล์ม สำเนาประวัติการรักษา ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจชิ้นเนื้อ หรือผลทางพยาธิสภาพ
  • กรมธรรม์ประกันชีวิตต้นฉบับ
  • หนังสือยินยอม ที่กรอกโดยครบถ้วนพร้อมลงลายมือชื่อ
  • หลักฐานสำเนาบัตรประชาชนที่รับรองสำเนาถูกต้อง
  1. เข้าเว็บไซด์ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ หน้าดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
  2. จัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ตามรายละเอียดของการจัดเตรียมเอกสาร ด้านบน
  3. จัดส่งเอกสารที่ครบถ้วน ถึงบริษัทฯ โดย
    - ส่งไปรษณีย์ แบบลงทะเบียน มาถึงฝ่ายสินไหม บมจ.อลิอันซ์ อยุธยาประกันชีวิต ชั้น 18 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ 898 ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    - หรือ ส่งด้วยตนเอง โดยนำส่งเอกสารได้ที่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ชั้น 1 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ และ เซอร์วิสเซ็นเตอร์ ของบริษัทฯ ทุกแห่ง
  4. บริษัทฯ จะแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือ ไปถึงผู้เอาประกันภัย ทางไปรษณีย์

การเรียกร้องสินไหมกรณีสูญเสียอวัยวะ

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เราไม่อาจคาดการณ์ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด รวมถึงศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องประกันเพิ่มเติมเอาไว้ และในวันนี้เราขอเสนอขั้นตอนการเรียกร้องสินไหมกรณีสูญเสียอวัยวะ มาให้ทุกคนได้อ่านและเข้าใจเป็นการเตรียมเอาไว้

เอกสารที่ต้องใช้กรณีการสูญเสียอวัยวะ ตามสัญญาคุ้มครองอุบัติเหตุ

1. แบบฟอร์มเรียกร้องค่าทดแทนอุบัติเหตุ/ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน

2. ใบรับรองแพทย์ผู้รักษา

3. ฟิล์มเอ็กซเรย์ พร้อมรายงานผลการอ่าน (ถ้ามี)

4. รูปถ่ายปัจจุบันที่บ่งชี้การสูญเสียวัยวะของผู้เอาประกันภัย

5. สำเนาประวัติการรักษาพยาบาลทั้งหมด

คลิกอ่าน แจ้งเคลมประกันชีวิตผู้ป่วยนอก (OPD), แจ้งเคลมประกันชีวิตผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับลูกค้าอลิอันซ์ อยุธยาสามารถ ดาวน์โหลดฟอร์มอื่นๆ ได้ที่นี่ หรือผ่าน Application My Allianz

การเรียกร้องขอยกเว้นการชำระเบี้ยประกัน

เนื่องจากการยกเว้นการชำระเบี้ยประกันกรณีผู้เอาประกันภัย หรือผู้ชำระเบี้ยทุพพลภาพตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ต้องมีระยะเวลาประเมินเกินกว้า 180 วัน นับจากวันเจ็บป่วย หรือ เกิดเหตุ จึงมีความจำเป็นต้องใช้ใบแสดงความเห็นแพทย์ ที่ให้แพทย์ประเมินอาการ และ ประวัติการรักษา รวมถึง ฟิล์มเอ็กซเรย์เพื่อประกอบการพิจารณาสินไหม

เอกสารประกอบการเรียกร้องกรณีขอยกเว้นเบี้ยประกันภัย (WP/PB) เนื่องจาก ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ชำระเบี้ยทุพพลภาพ

  1. แบบฟอร์มเรียกร้องค่าทดแทนทุพพลภาพ
  2. ใบแสดงความเห็นแพทย์ (ด้านหลังแบบฟอร์มทุพพลภาพ)
  3. ฟิล์มเอ็กซเรย์ พร้อมรายงานผลการอ่าน (ถ้ามี)
  4. รูปถ่ายปัจจุบันที่บ่งชี้การทุพพลภาพของผู้เอาประกันภัย
  5. สำเนาประวัติการรักษาพยาบาลทั้งหมด
  6. กรมธรรม์ประกันชีวิตต้นฉบับ (กรณีสูญหาย ใช้ใบแจ้งความเอกสารสูญหาย)

แจ้งเคลมประกันชีวิตกรณีเสียชีวิต

เมื่อเกิดเหตุเสียชีวิต ไม่ว่ากรณีไหนๆ ก็มักทำให้คนรอบข้างของผู้ตายวุ่นวายใจ ทั้งทางอารมณ์ที่ต้องเสียคนใกล้ชิด ทั้งความวุ่นวายเรื่องการติดต่อแจ้งเรื่องต่างๆ ที่เราไม่คุ้นชินอีก วันนี้เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คุณเบาใจได้เมื่อวันที่คนสำคัญของคุณจากไป

กรุณาติดต่อ ศูนย์ดูแลลูกค้า โทร.1373 เพื่อแจ้งให้บริษัททราบทันที และยื่นเอกสารมรณกรรมให้บริษัทฯ ภายใน 14 วันนับแต่วันที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต

ก่อนที่จะสามารถดำเนินเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแบ่งมรดก ยื่นสิทธิ์เป็นผู้จัดการมรดก หรือแม้แต่เรียกสินไหมมรณกรรมจากบริษัทประกัน สิ่งแรกที่คนข้างหลังต้องมีคือ มรณบัตร ซึ่งการดำเนินการแบ่งออกเป็นกรณีดังต่อไปนี้
โรงพยาบาลจะออก “หนังสือรับรองการตาย” (ใบท.ร.4/1)  ให้ เพื่อเป็นหลักฐานแสดงเหตุการณ์ตาย จากนั้นญาติค่อยนำ “หนังสือรับรองการตาย” พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิตไปยังสำนักทะเบียนท้องถิ่น หรือที่ทำการเขต (อำเภอ) ในเขตที่โรงพยาบาลนั้นตั้งอยู่ เพื่อขอรับใบมรณบัตร แต่บางโรงพยาบาลจะอำนวยความสะดวกโดย จะประสานกับสำนักทะเบียนท้องถิ่น หรือที่ทำการเขต (อำเภอ) เพื่อติดต่อขอให้ออกใบมรณบัตรแทนญาติ  ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตจะต้องนำทะเบียนบ้านไปให้โรงพยาบาลด้วย

เอกสารที่ต้องใช้

  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิต
  • ใบรับรองแพทย์
  • ทะเบียนบ้าน (ในกรณีให้บางโรงพยาบาลที่สามารถออกใบมรณบัตรให้ หรือดำเนินการให้)
เจ้าของบ้านหรือผู้แทนเจ้าของบ้าน จะต้องไปแจ้งการตายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อออกใบรับรองการตาย และนำไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนท้องถิ่น (แพทย์ประจำตำบล ผู้ใหญ่บ้าน หรือ กำนัน) ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเขตบ้าน ภายใน 24 ชั่วโมง (นับตั่งแต่เวลาตายหรือพบศพ) เพื่อไปติดต่อขอใบมรณบัตร

เอกสารที่ต้องใช้

  • ใบรับรองการตาย หรือ ท.ร. 4/1 (จากเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนท้องถิ่น หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเขตบ้าน)
  • หนังสือมอบหมายจากเจ้าบ้าน (ในกรณีมอบหมาย)
  • บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิต (ถ้ามี)
เป็นกรณีที่ผู้ตาย เสียชีวิตนอกเขตบ้าน เช่น ที่สวน ที่ศาลา โดยธรรมชาติ (จากการเจ็บป่วย) ผู้แจ้งตายซึ่งเป็นผู้พบศพ จะต้องรีบแจ้งตายภายใน 24 ชั่วโมงหลังพบศพ แต่ถ้าหากพื้นที่ใดเดินทางได้ยากลำบาก ทางการจะยืดหยุ่นระยะเวลาการแจ้งตายเอาไว้ว่าสามารถแจ้งตายได้ภายใน 7 วัน หากแจ้งเกินกว่านี้จะถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนวิธีการแจ้งตายและหลักฐานการแจ้งตายจะใช้แบบเดียวกันกับกรณีตายในบ้าน
เจ้าของบ้านหรือผู้พบศพ จะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาชันสูตรศพ เพื่อทำหลักฐานการเสียชีวิต ภายในเวลา 24 ชั่วโมง (นับแต่เวลาตายหรือพบศพ) โดยในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแพทย์ยังไม่ได้ตรวจศพ ห้ามเคลื่อนย้ายศพ หรือทำให้ศพเปลี่ยนสภาพ หรือนำยามาฉีดศพ เมื่อเสร็จขั้นตอนตรวจชันสูตร ญาติผู้เสียชีวิตจะต้องไปขอหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งขอใบชันสูตรศพจากแพทย์ เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สำนักทะเบีบนท้องถิ่นในการขอใบมรณบัตร โดยแจ้งด้วยว่าจะนำศพไปบำเพ็ญกุศล ตามความเชื่อทางศาสนา ให้กรอกในช่องที่ว่า เผา ฝัง เก็บ หรืออุทิศ

เอกสารที่ต้องใช้

  • หลักฐานการชันสูตรพลิกศพ
  • หนังสือมอบหมายจากเจ้าบ้าน (ในกรณีมอบหมาย)
  • บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิต (ถ้ามี)

หลังจากได้ใบมรณบัตรแล้ว โดยทั่วไปครอบครัวและญาติของผู้ตายจะนำศพไปทำพิธีตามศาสนาและความเชื่อ โดยต้นทางสำหรับคนที่รับศพจากโรงพยาบาล หรือห้องชันสูตร มีขั้นตอนคือ

1. กรอกข้อความในใบคำร้องขอรับศพ พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง ประกอบใบคำร้องยื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเวรฯ ห้องประชาสัมพันธ์ (ผู้ยื่น ต้องเป็น บิดา มารดา สามี ภรรยา บุตร หรือผู้ได้รับมอบหมายจากพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุ)

2. ระบุความประสงค์ในการฉีดยารักษาสภาพศพ ในใบคำร้องขอรับศพ

3. จัดเตรียมเสื้อผ้าสำหรับผู้เสียชีวิต หีบศพ พร้อมยานพาหนะสำหรับเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีทางศาสนา

4. ชำระเงินค่าบำรุง ค่าฉีดยารักษาสภาพศพกับเจ้าหน้าที่ห้องประชาสัมพันธ์รับใบเสร็จรับเงิน ตรวจสอบยอดเงินให้ถูกต้อง

5. รับศพ ตรวจสอบ ตำหนิรูปพรรณสัณฐานศพที่จะรับให้ถูกต้องว่าเป็นญาติของท่านเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

เอกสารที่ต้องใช้

  • บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านผู้มาติดต่อขอรับศพ
  • บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต
  • หนังสือขอรับศพจากพนักงานสอบสวน หรือหนังสือยืนยันชื่อศพ (กรณีศพไม่ทราบชื่อหรือชื่อไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน)
  • หนังสือรับรองจากจุฬาราชมนตรี หรือ อิหม่าม กรณีผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทยมุสลิม
  • ใบมรณะบัตร

Tips เพิ่มเติม:

การเคลื่อนย้ายศพเพื่อไปพิธีทางศาสนา สามารถทำได้โดยการติดต่อบริการจากทางศาสนสถาน หรือบริการเคลื่อนย้ายศพจากร้านขายโลงศพบางร้าน

กรณีเสียชีวิตตามธรรมชาติ

1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมมรณกรรม ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม (ลงนามในส่วนผู้รับประโยชน์และท่อนท้ายในส่วนใบมอบฉันทะให้ครบถ้วน)

2. ใบรับรองแพทย์ผู้รักษาสำหรับสินไหมมรณกรรม 

3. รายงานการสอบสวนมรณกรรมของผู้เอาประกันภัยโดยผู้บริหารตัวแทน – ตัวแทน

4. มรณบัตร ต้นฉบับ พร้อมสำเนามรณบัตร (รับรองสำเนาถูกต้อง)

5. บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตต้นฉบับ พร้อมสำเนา (รับรองสำเนาถูกต้อง)

6. ทะเบียนบ้านของผู้ตายที่จำหน่าย"ตาย"ต้นฉบับพร้อมสำเนา(รับรองสำเนาถูกต้อง)

7. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับผลประโยชน์ทุกคน (รับรองสำเนาถูกต้อง) 

8. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับผลประโยชน์ทุกคน (รับรองสำเนาถูกต้อง)

9. กรมธรรม์ประกันชีวิตต้นฉบับ (กรณีสูญหาย ใช้ใบแจ้งความเอกสารสูญหาย)

10. รูปถ่ายปัจจุบันของผู้รับประโยชน์ทุกท่าน ที่รับเงินสินไหมท่านละ 100,000 บาทถ้วนขึ้นไป เพื่อยืนยันบุคคลตามประกาศสำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน ในกรณีที่ไม่มีตัวแทนบริการ หรือ การชื้อประกันผ่านช่องทางโทรศัพท์

11. สำเนาหน้าบัญชีธนาคารของผู้รับประโยชน์ทุกท่าน เพื่อโอนเงินมูลค่าหน่วยลงทุน เฉพาะกรมธรรม์แบบ ยูนิตลิงค์

กรณีเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ (อุบัติเหตุ หรือถูกฆาตกรรม หรือมีผลทางคดี)
ใช้เอกสารเหมือนกับข้อ 1-11 ของกรณีเสียชีวิตตามธรรมชาติ เพิ่มเติมดังนี้
12. สำเนาบันทึกประจำวัน วันที่เกิดเหตุ รับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ข้อไป และ ข้อกลับ)

อธิบายเพิ่มเติม 

- ข้อไป หมายถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุ และ ออกไปที่เกิดเหตุ แล้วลงบันทึกประจำวัน

- ข้อกลับ หมายถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจที่เกิดเหตุแล้วพบอะไรบ้าง มีใครอยู่ในสถานที่เกิดเหตุบ้าง บาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต และ นำส่งต่อที่ใด โดยกลับมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

13. สำเนาใบชันสูตรพลิกศพที่รับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ด้านหน้า และ ด้านหลัง)

14. รายงานการตรวจศพ รับรองโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือแพทย์ผู้ผ่าศพ (กรณีมีการผ่าพิสูจน์ศพ)

15. กรณีผู้ชำระเบี้ยเสียชีวิตหรือผู้รับประโยชน์เป็นผู้เยาว์ ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครองโดยชอบธรรมตามกฎหมาย (กรณีไม่ใช่บิดา-มารดา กรุณาแนบสำเนาคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้ปกครอง)

16. คำร้องขอเปลี่ยนแปลงผู้ปกครอง (กรณีผู้ชำระเบี้ยเสียชีวิต)

ท่านสามารถดาวน์โหลด เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ คลิกที่นี่

บริการประกันชีวิตไม่ต้องสำรองจ่าย

คือบริการทางด้านการการรักษาพยาบาลที่อลิอันซ์ อยุธยา พัฒนาขึ้น เพื่อให้การบริการแก่ผู้เอาประกันภัย ณ โรงพยาบาลชั้นนำในเครือข่ายอลิอันซ์อยุธยาแคร์ โดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล
คือ การขอใช้สิทธิ์ในการเข้ารักษาตัวแบบผู้ป่วยในโดยไม่ต้องสำรองเงินจ่าย ณ โรงพยาบาลในเครือข่ายอลิอันซ์อยุธยาแคร์ 
แจ้งความจำนงขอใช้สิทธิ์โดยยื่นบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เมื่อแพทย์ผู้ตรวจลงความเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะติดต่อกับบริษัทฯ เพื่อแจ้งยืนยันการให้บริการเบื้องต้น เมื่อบริษัทฯ อนุมัติการใช้บริการแล้ว เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะแจ้งให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงค่าใช้จ่ายที่อยู่ภาย ใต้เงื่อนไขและผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเกินสิทธิ์ที่โรงพยาบาลจะเรียกเก็บจากผู้เอาประกันภัย โดยตรง
คือ การขอใช้สิทธิ์ในการเข้ารักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกโดยไม่ต้องสำรองเงินจ่าย ณ โรงพยาบาลในเครือข่ายอลิอันซ์อยุธยาแคร์ 
แจ้งความจำนงขอใช้สิทธิ์โดยยื่นบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิทธิ์ของผู้เอาประกันภัย แล้วจะแจ้งผลประโยชน์ และความคุ้มครองตามกรมธรรม์ให้ผู้เอาประกันภัยทราบ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเกินสิทธิ์ที่โรงพยาบาลจะเรียกเก็บจากผู้เอาประกันภัย โดยตรง

บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ให้บริการผู้ป่วยนอกแบบไม่ต้องสำรองจ่าย เฉพาะ

  • ผู้เอาประกันภัยที่ไม่มีข้อยกเว้นเฉพาะที่ระบุในกรมธรรม์
  • กรมธรรม์ที่ชำระเบี้ยภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • กรมธรรม์ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายคงค้างกับบริษัทฯ
  • กรณีที่ ค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิ์ความคุ้มครองภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินสิทธิ์นั้นให้กับโรง พยาบาล
  •  
  • กรณี ที่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถใช้บริการได้ ผู้เอาประกันภัยสามารถส่งเอกสารเรียกร้องสินไหมมายังฝ่ายสินไหมได้ตามปกติ โดยดำเนินการตามประเภทของการเรียกร้อง ตาม link ด้านล่าง

- บริษัทฯ จะแจ้งผลการพิจารณาภายใน 15 วันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารครบถ้วน

- ในกรณีที่การเรียกร้องสินไหมครั้งนั้นๆ หากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องรวบรวมเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา บริษัทฯ จะแจ้ง

  ผลการพิจารณาภายใน 90 วันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารครบถ้วน

- กรณีที่มีความประสงค์จะให้บริษัทฯ ทบทวนผลการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหม บริษัทฯ จะดำเนินการทบทวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับ

  เรื่องขอให้ทบทวนเป็นลายลักษณ์อักษร และได้รับเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมตามที่บริษัทฯ เรียกร้องครบถ้วน

กรณี ที่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถใช้บริการได้ ผู้เอาประกันภัยสามารถส่งเอกสารเรียกร้องสินไหมมายังฝ่ายสินไหมที่

1. กรณีส่งเอกสารทางไปรษณีย์

ฝ่ายสินไหม บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ชั้น 18

อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ 898 ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

2. กรณีส่งด้วยตัวเองที่

เคาน์เตอร์เซอร์วิส ชั้น 1 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ และเซอร์วิสเซ็นเตอร์ทั้ง 10 แห่ง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ 1292 หรืออีเมล csc@allianz.co.th
โทร 1373 หรือ email: customercare@allianz.co.th